Thank you DANAI Who will Replace you Next

นักกีฬาที่ขาดความกระหายในการเล่น หรือขาดจุดมุ่งหมาย ไม่รู้ตัวว่าจะเล่นไปเพื่ออะไร หรือเล่นไปทำไม ย่อมเกิดขึ้นได้ เรียนรู้จากพี่ปิ้ก ดนัย อุดมโชค ให้สัมภาษณ์รายการ Talk Show รายการหนึ่ง ดูเหมือนว่า พี่ปิ้ก ได้เดินทางมาถึงจุดอิ่มตัวแล้ว จุดที่ ไม่มีไฟ หรือความทะเยอยานอยากในการแข่งขันหรือการเอาชนะอีกต่อไป ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นเรื่องธรรมชาติของคน คงไม่มีใครที่จะทำอะไรเพียงอย่างเดียว ซ้ำๆ ไปตลอดชีวิต หรอกนะ เกิดมาทั้งที อย่างน้อยๆ ก็ลองทำหลายๆ อย่าง เอาให้คุ้มค่าดีกว่านะผมว่า
เล่นแบบคงสภาพ ไม่มีการพัฒนา แบบนี้ ไม่ใช่ตัวตนหรือวิธีคิดของผม พี่ดนัย ได้กล่าวไว้ และนำมาสู่การตัดสินใจเลิกเล่น หรือ แขวนแรกเก็ต ในที่สุด

ครอบครัว เวลาที่จะทุ่มเทให้กีฬาเทนนิสเต็ม 100% เหมือนเดิมไม่ได้ ต้องแบ่งเวลาและสมาธิไปกับครอบครัว และลูกด้วย
สิ่งที่พี่ปิ้ก ดนัยอุดมโชค ได้เรียนรู้บนเส้นทางนักเทนนิสอาชีพ กว่า 26 ปี ผ่านอะไมาเยอะมากๆ และมี Wind Under Wings ซึ่งสำคัญมากๆ คือคุณพ่อแม่ของพี่ปิ้ก
เบรคแปป
สรุปว่า บางอย่าง ก็สอนกันไม่ได้ ต้องเจอเอง หรือผ่านประสบการณ์ตรงนั้นเอง จะดีกว่า นั่งฟังและใช้จินตนาการเพียงอย่างเดียว
สมาธิ และการควบคุมอารมณ์เป็นสิ่งสำคัญ
เมื่อผลงานดี ก็มีแมวมองและ Sponsor เข้ามาสนับสนุน จนพี่ปิ้ก ออกแข่งต่างประเทศครั้งแรก ตอนอายุ 13 ขวบ เด็กมากเลยนะนั้น
เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ เช่น อาหารการกิน เวลา สภาพอากาศ การปรับตัว ฯลฯ ฉะนั้นวินัยหรือ Discipline ต้องดีมากๆ
เดินทางประเทศใกล้ไทยก่อน เข้ากลุ่มกับรุ่นพี่ๆ และผู้ฝึกสอน Coach
เดินทางแข่งขัน 3 ปี ยังไม่ได้แต้ม แต่ไม่ท้อ สู้ต่อ ในระดับเยาวชน จนอายุ 18 ไต่อันดับไปถึง Seed#16 เยาวชนโลก
ปัญหาเรื่องการสื่อสาร ภาษาอังกฤษ มีความสำคัญ ในการเดินทาง และการติดต่อสื่อสาร
การจัดการทุกอย่างในการเดินทางไปแข่งขัน ต้องเป้นระบบ และมืออาชีพ เรื่องของที่พัก การเดินทาง ตั๋วเครื่องบิน วิซ่า ฯลฯ
อันดับโลกสูงสุด ที่พี่ปิ้ก เคยทำได้คือ 77
ตัวอย่างหรือแรงบันดาลใจสำหรับเยาวชนไทยที่ต้องการจะเล่นเทนนิส
ครอบครัว พ่อกับแม่คือรากฐาน ในการเล่นเทนนิสของปิ้ก
คุณพ่อเป็นอาชีพ ทนาย ส่วนคุณแม่มีร้านตัดเสื้อผ้า สุดท้ายคุณพ่อก็เสียสละ ลาออกจากอาชีพ มาทำหน้าที่ ผู้สนับสนุนปิ้กอย่างเต็มตัว ขับรถพาไปแข่งขัน ไปฝึกซ้อม ฯลฯ
พิธีกร ถามปิ้กว่า ทำไมไม่มีระบบ หรือองค์กร ที่จะมาปั้นหรือสร้างนักกีฬาที่เก่งและมีชื่อเสียง เหมือนเช่น ที่ครอบครัวทำแบบนี้
พี่ปิ้กตอบได้ดีมากๆ คือว่า ตอบยาก เพราะ ไม่มีใครประกันความสำเร็จ มันก็คือ การเสี่ยง นั้นเอง
สิ่งที่เลือกได้คือ Belief หรือ ความเชื่อว่เราเชื่อมั่นในตัวเอง หรือสิ่งที่เราตัดสินใจเลือก หรือไม่
เชื่อในตัวลูกของเราหรือเปล่า ว่าต้องการและจะทำมันได้จริงๆ แล้วดูจากอะไร สภาพแวดล้อม และเส้นทางที่ผ่านมาในแต่ละวัน โอกาส ฯลฯ
ต้องดูให้ออกจริงๆ ถ้าไม่ใช่ก็อย่าฝืน



มาถึงคำถามสำคัญ และดูว่าจะเป็น High Light สำคัญของประเด็นสนทนาในวันนี้ คือ
ถ้าน้องๆ อยากเป็นนักเทนนิสอาชีพแบบพี่ปิ้ก จะต้องทำอย่างไรบ้าง จะเสียโอกาสอะไร และจะได้อะไรกลับมาบ้างเป็นสิ่งตอบแทน
ความสนุกสนาน กับสังคมเพื่อนๆ ไม่ตัดขาด แต่จะแคบและน้อยลง
คิดถึง Tennis มาก่อนเป็นอันดับแรก
ปัญหาที่มองเห็นคือ การปฏิบัติตามแผนที่กำหนด หรือวางไว้แล้ว ไม่ได้ หรือ ไม่เต็มที เช่นวันนี้มีแผนซ้อม แต่เพื่อนๆ ชวนไปเที่ยว ก็ยกเลิกการซ้อมและไปกับเพื่อนๆ แทน แบบนี้ ก็ไม่ควร
ดังนั้น ถ้าจะตัดสินใจดูแลใครสักคน ก็ต้อง 100% เต็มกับเทนนิส ไม่อยากนั้นก็จะเสียเวลากันทั้ง 2 ฝ่าย



จบแล้ว
ขอบคุณ และติดตามผลงานของพี่ปิ้กดนัยต่อ ในฐานะผู้ฝึกสอน หรืออะไรก็ตามที่พี่เขาทำนะครับ


Previous Post Next Post

نموذج الاتصال