สรุปผลการแข่งขันเทนนิสรายการยูเอสโอเพ่น แกรนสแลมสุดท้ายของปี เป็นการโคจรมาพบกันอีกครั้งของสุดยอดนักเทนนิสชายของโลก ที่แฟนๆ เทนนิสของทั้งสองฝ่ายต่างรอคอย เปรียบเป็นมวยที่ถูกคู่ สูสีและมีโอกาสแพ้ชนะได้เท่าๆ กัน แม้ว่าจริงๆ แล้ว ยอโควิช น่าจะมีภาษีในเรื่องของความสด ด้วยวัยที่ยังหนุ่มกว่าโจเจอร์ ซึ่งปีนี้อายุ 34 ปีแล้ว แต่การดูแลร่างกายและการฝึกซ้อมถือว่ายอดเยี่ยม
ซึ่งผลการแข่งขันก็เป็นไปตามที่หลายคนคาดการณ์ไว้ โดยชัยชนะตกเป็นของมืองวางอันดับ 1 ของโลก ชาวเซิบร์ โนวัค ยอโควิช ที่สามารถเอาชนะคู่แข่งขันอย่าง โรเจอร์ เฟดเดอร์เรอ ชาวสวิสเซอร์แลนด์ เจ้าของแชมป์แกรนสแลม 17 ใบ ไปด้วยคะแนน 6-4, 5-7, 6-4, 6-4 คว้าแชปม์ ยูเอสโอเพ่นเป็นสมัยที่สอง หลังจากที่เคยทำได้ในปี 2011 รวมถ้วยแชมป์แกรนสแลมใบที่ 10 ในอาชีพการแข่งขันของเขา
สำหรับการแข่งขันในเย็นวันอาทิตย์ ณ สนามหลักเอเธอร์แอชสเตเดียม สังเวียนการแข่งขันของทั้งคู่ ซึ่งการแข่งขันต้องล่าช้าออกไปกว่า 3 ชั่วโมง เนื่องจากพายุฝน
บทสัมภาษณ์หลังการแข่งขัน ยอโควิช ได้กล่าวไว้ว่า
"ไม่จำเป็นในการกล่าวว่าตนเองเหนือกว่า แต่แน่นอนว่าผมภาคภูมิใจกับทุกความสำเร็จในการการแข่งขัน . "การชนะเลิศ Grand Slamเป็นสิ่งพิเศษสุดของนักเทนนิส เมื่อคุณมีความฝันและเข้าสู่อาชีพของการเป็นนักเทนนิส . เมื่อตอนที่คุณกำลังค้นหาแรงบันดาลใจ แรงกระตุ้น การแข่งขันเหล่านี้คือความฝันที่คุณฝันถึงชัยชนะ .
"การย้อนถึงความทรงจำในครั้งที่ได้รับถ้วยใบแรกที่นี้ อีกครั้งเป็นสิ่งที่ไม่น่าเชือ และการเอาชนะคู่แข่งขันที่เก่งอย่างโจเจอร์ คนที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเจ้าของแกรนสแลมตลอดกาลอย่างโรเจอร์ เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ และสามารถเอาชนะโรเจอร์ได้อีกครั้ง หลังจากที่เจอกันในรอบชิงวิมเบิลดันที่ผ่านมา เป็นความท้าทาย และผมเองก็ภูมิใจมากที่สุด ที่สามารถทำได้อีกครั้ง"
ด้านรองชนะเลิศ โรเจอร์ ได้กล่าวว่า
"ผมมีโอกาสเบรกจำนวนมาก " ,เป็นการลงเล่นในรอบชิงแกรนสแลมแรกของ US Open ของเขา นับแต่ปี 2009. "แน่นอนว่า ผมควรจะทำได้ดีกว่านี้ " น่าจะผิดหวังมาก และคิดว่าเขาควรจะทำได้ดีกว่านี้
รายละเอียดการแข่งขัน เป็นฝั่งของนักเทนนิสมากประสบการณ์และฝีมืออย่างโจเจอร์ ที่พยายามใช้แทกติกการเล่นที่หลากหลาย โดยแทกติกหลัก เน้นโดยการวางลูกเสิฟร์แรกให้เลี้ยวออกนอกทิศทาง เพื่อเปิดพื้นที่คอทต์ ในการวางบอลเพื่อเอาวินเนอร์ ด้วยรู้ตัวดีว่า สภาพร่างกายในการแข่งขันแบบตีโต้กันท้ายคอทต์เป็นรองและเสียเปรียบคู่แข่งขัน แม้ว่ายอโควิช จะลื่นและหกล้มในระหว่างการแข่งขัน จนมีแผลถลอกและเลือกซิบของข้อศอกและแขนในระหว่างการแข่งขัน แต่ไม่เป็นอุปสรรค
นอกจากนั้น ยุทธวิธีการจู่โจมอย่างรวดเร็วที่เรียกว่า Sneak attack, ระหว่างการเซิฟบอลที่สองของคู่ต่อสู้ โดยเป็นการขยับเข้าหาและวางบอลอย่างรวดเร็ว จนคู่ต่อสู้ไม่ทันระวัง ไปทางตรง หรือ down the line ด้วยการตี BH มือเดียว ซึ่งสร้างปัญหาให้กับ ยอโควิชอย่างมากเช่นกัน
ทั้งนี้ยอโควิช ได้กล่าวว่า
เขารู้ตัวดีว่าคู่แข่งขัน ว่าฝ่ายตรงข้ามต้องใช้การเล่นที่ดุดันในการเล่นกับเขา และใช้ความหลากหลายในการเล่น เช่นการเปิดพื้นที่ด้านข้าง การใช้ลูกสไลด์หลังมือ การฉวยโอกาสรีเทินเสิฟร์สองของเขาอย่างรวดเร็ว และขึ้นหน้าเน็ตอย่างรวดเร็ว การเสิฟและวอลเลย์ ฯลฯ เป็นต้น แต่ว่าเขาก็พร้อมรับมือทุกอย่างกับแทกติกและวิธีการเล่นของโรเจอร์ และนั้นคือเหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้ว โดยใช้เวลานาน 3.20 ชั่วโมง ในเกมส์ที่ต่างฝ่ายต่างพยายามบังคับให้ฝ่ายตรงข้ามเล่นในเกมส์ที่ตนเองไม่ถนัด
บทสรุป
ชัยชนะครั้งนี้ นับเป็นถ้วยแกรนสแลมใบที่ 3 ของยอโควิช ที่เขาสามารถทำได้ ของปี เริ่มจาก ออสเตรเลียโอเพ่น ,วิมเบิลดัน และมา ยูเอส โอเพ่น (ปีนี้เข้าชิงที่โรลังการ์ลอส แต่แพ้ให้วาวรินก้า)
สถิติการพบกันของทั้งคู่เป็น 42 ครั้ง โดยมีผลแพ้ชนะที่ 21-21
อีกบทพิสูจน์ความเป็นมืออันดับหนึ่งของโลก ที่แสดงให้เห็นถึงความสุดยอด และมองหาคนที่จะมาเทียบรัศมีของเขาในเวลานี้ยังไม่ชัดเจน ซึ่งรวมถึงผู้เล่นดังๆ ลำดับต่อมาอย่างเช่น วาวรินก้า หรือ เมอร์เรย์
ซึ่งผลการแข่งขันก็เป็นไปตามที่หลายคนคาดการณ์ไว้ โดยชัยชนะตกเป็นของมืองวางอันดับ 1 ของโลก ชาวเซิบร์ โนวัค ยอโควิช ที่สามารถเอาชนะคู่แข่งขันอย่าง โรเจอร์ เฟดเดอร์เรอ ชาวสวิสเซอร์แลนด์ เจ้าของแชมป์แกรนสแลม 17 ใบ ไปด้วยคะแนน 6-4, 5-7, 6-4, 6-4 คว้าแชปม์ ยูเอสโอเพ่นเป็นสมัยที่สอง หลังจากที่เคยทำได้ในปี 2011 รวมถ้วยแชมป์แกรนสแลมใบที่ 10 ในอาชีพการแข่งขันของเขา
สำหรับการแข่งขันในเย็นวันอาทิตย์ ณ สนามหลักเอเธอร์แอชสเตเดียม สังเวียนการแข่งขันของทั้งคู่ ซึ่งการแข่งขันต้องล่าช้าออกไปกว่า 3 ชั่วโมง เนื่องจากพายุฝน
บทสัมภาษณ์หลังการแข่งขัน ยอโควิช ได้กล่าวไว้ว่า
"ไม่จำเป็นในการกล่าวว่าตนเองเหนือกว่า แต่แน่นอนว่าผมภาคภูมิใจกับทุกความสำเร็จในการการแข่งขัน . "การชนะเลิศ Grand Slamเป็นสิ่งพิเศษสุดของนักเทนนิส เมื่อคุณมีความฝันและเข้าสู่อาชีพของการเป็นนักเทนนิส . เมื่อตอนที่คุณกำลังค้นหาแรงบันดาลใจ แรงกระตุ้น การแข่งขันเหล่านี้คือความฝันที่คุณฝันถึงชัยชนะ .
"การย้อนถึงความทรงจำในครั้งที่ได้รับถ้วยใบแรกที่นี้ อีกครั้งเป็นสิ่งที่ไม่น่าเชือ และการเอาชนะคู่แข่งขันที่เก่งอย่างโจเจอร์ คนที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเจ้าของแกรนสแลมตลอดกาลอย่างโรเจอร์ เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ และสามารถเอาชนะโรเจอร์ได้อีกครั้ง หลังจากที่เจอกันในรอบชิงวิมเบิลดันที่ผ่านมา เป็นความท้าทาย และผมเองก็ภูมิใจมากที่สุด ที่สามารถทำได้อีกครั้ง"
ด้านรองชนะเลิศ โรเจอร์ ได้กล่าวว่า
"ผมมีโอกาสเบรกจำนวนมาก " ,เป็นการลงเล่นในรอบชิงแกรนสแลมแรกของ US Open ของเขา นับแต่ปี 2009. "แน่นอนว่า ผมควรจะทำได้ดีกว่านี้ " น่าจะผิดหวังมาก และคิดว่าเขาควรจะทำได้ดีกว่านี้
รายละเอียดการแข่งขัน เป็นฝั่งของนักเทนนิสมากประสบการณ์และฝีมืออย่างโจเจอร์ ที่พยายามใช้แทกติกการเล่นที่หลากหลาย โดยแทกติกหลัก เน้นโดยการวางลูกเสิฟร์แรกให้เลี้ยวออกนอกทิศทาง เพื่อเปิดพื้นที่คอทต์ ในการวางบอลเพื่อเอาวินเนอร์ ด้วยรู้ตัวดีว่า สภาพร่างกายในการแข่งขันแบบตีโต้กันท้ายคอทต์เป็นรองและเสียเปรียบคู่แข่งขัน แม้ว่ายอโควิช จะลื่นและหกล้มในระหว่างการแข่งขัน จนมีแผลถลอกและเลือกซิบของข้อศอกและแขนในระหว่างการแข่งขัน แต่ไม่เป็นอุปสรรค
นอกจากนั้น ยุทธวิธีการจู่โจมอย่างรวดเร็วที่เรียกว่า Sneak attack, ระหว่างการเซิฟบอลที่สองของคู่ต่อสู้ โดยเป็นการขยับเข้าหาและวางบอลอย่างรวดเร็ว จนคู่ต่อสู้ไม่ทันระวัง ไปทางตรง หรือ down the line ด้วยการตี BH มือเดียว ซึ่งสร้างปัญหาให้กับ ยอโควิชอย่างมากเช่นกัน
ทั้งนี้ยอโควิช ได้กล่าวว่า
เขารู้ตัวดีว่าคู่แข่งขัน ว่าฝ่ายตรงข้ามต้องใช้การเล่นที่ดุดันในการเล่นกับเขา และใช้ความหลากหลายในการเล่น เช่นการเปิดพื้นที่ด้านข้าง การใช้ลูกสไลด์หลังมือ การฉวยโอกาสรีเทินเสิฟร์สองของเขาอย่างรวดเร็ว และขึ้นหน้าเน็ตอย่างรวดเร็ว การเสิฟและวอลเลย์ ฯลฯ เป็นต้น แต่ว่าเขาก็พร้อมรับมือทุกอย่างกับแทกติกและวิธีการเล่นของโรเจอร์ และนั้นคือเหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้ว โดยใช้เวลานาน 3.20 ชั่วโมง ในเกมส์ที่ต่างฝ่ายต่างพยายามบังคับให้ฝ่ายตรงข้ามเล่นในเกมส์ที่ตนเองไม่ถนัด
บทสรุป
ชัยชนะครั้งนี้ นับเป็นถ้วยแกรนสแลมใบที่ 3 ของยอโควิช ที่เขาสามารถทำได้ ของปี เริ่มจาก ออสเตรเลียโอเพ่น ,วิมเบิลดัน และมา ยูเอส โอเพ่น (ปีนี้เข้าชิงที่โรลังการ์ลอส แต่แพ้ให้วาวรินก้า)
สถิติการพบกันของทั้งคู่เป็น 42 ครั้ง โดยมีผลแพ้ชนะที่ 21-21
อีกบทพิสูจน์ความเป็นมืออันดับหนึ่งของโลก ที่แสดงให้เห็นถึงความสุดยอด และมองหาคนที่จะมาเทียบรัศมีของเขาในเวลานี้ยังไม่ชัดเจน ซึ่งรวมถึงผู้เล่นดังๆ ลำดับต่อมาอย่างเช่น วาวรินก้า หรือ เมอร์เรย์
Credit: http://www.usopen.org/en_US/news/articles/2015-09-13/clutch_djokovic_clinches_second_us_open.html?promo=media_wall
Tags
News